
แนวคิด “Free Play เล่นอิสระออกแบบได้” หมายถึง การจัดกิจกรรมหรือพื้นที่ให้เด็กสามารถเลือกเล่นตามความสนใจของตนเองได้อย่างอิสระ เสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาผ่านการเรียนรู้จากการเล่นในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อจินตนาการและการสำรวจสิ่งใหม่ ๆ โดยสามารถจัดกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย เช่น
1. เล่นน้ำ ทราย
- ส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการสัมผัส สร้างประสบการณ์ทางประสาทสัมผัส
- เด็กได้ทดลองตัก เท ปั้น สร้างสรรค์รูปทรงจากทราย
- พัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่-เล็ก และประสานสัมพันธ์ระหว่างมือ-ตา
2. เล่นมุมมองจากที่สูง
- จัดมุมหรืออุปกรณ์ที่ให้เด็กได้มองโลกจากมุมสูง เช่น หอสังเกตุการณ์ ปีนป่ายต้นไม้ หินก้อนใหญ่ พื้นที่ต่างระดับ
- ส่งเสริมการรับรู้ทิศทาง ความสูงต่ำ การแก้ปัญหา และท้าทายความกลัว
3. มุมศิลปะ
- เปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกทางความคิดและอารมณ์ผ่านการวาด ปั้น ระบายสี ตัดแปะ
- พัฒนาจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการใช้มือ
4. มุมแฟนซี
- พื้นที่สำหรับแต่งตัว เล่นบทบาทสมมติ เช่น เจ้าหญิง หมอ เชฟ ซูเปอร์ฮีโร่
- เสริมสร้างทักษะทางสังคม ฝึกความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก ภาษา และการเลียนแบบสถานการณ์จริง
5. มุมธรรมชาติ
- จัดพื้นที่ที่เด็กได้สัมผัสธรรมชาติ เช่น ใบไม้ ก้อนหิน ดอกไม้ ดิน
- เสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสิ่งมีชีวิต
6. มุมวิทยาศาสตร์
- กิจกรรมทดลองง่าย ๆ เช่น น้ำหนัก แม่เหล็ก แสง การผสมสี การงอกของเมล็ด
- ส่งเสริมกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ การตั้งสมมติฐาน ทดลอง และสรุปผล
7. มุมกล่อง
- ใช้กล่องหลายขนาดเพื่อให้เด็กสร้างสิ่งของ เช่น บ้าน รถ ยานอวกาศ ฯลฯ
- ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการเล่นอย่างมีจินตนาการ
จึงถือได้ว่า Free Play เป็นการเล่นที่เด็กเป็นผู้กำหนดวิธีการเล่นเอง โดยไม่มีการชี้นำหรือควบคุมจากผู้ใหญ่ เด็กสามารถใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของตนในการออกแบบการเล่นได้อย่างอิสระ
เอกสารอ้างอิง:
Nopparat. (2568). Free Play เล่นอิสระออกแบบได้. สืบค้น 24 เมษายน 2568, จาก https://www.thaihealth.or.th/?p=379523